Aller au contenu principal

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาล 1986–87


สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาล 1986–87


ฤดูกาล 1986–87 เป็นฤดูกาลที่ 85 ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฟุตบอลลีก และเป็นฤดูกาลที่ 12 ติดต่อกันบนลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ

ความกดดันต่อรอน แอตกินสัน ผู้จัดการทีมยังคงรุนแรง หลังจากที่ล้มเหลวในการลุ้นแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงเมื่อพวกเขาแพ้ 3 เกมแรกของฤดูกาล และถึงแม้จะมีผลงานที่ดีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา แต่ยูไนเต็ดก็ตกรอบลีกคัพรอบที่ 4 นัดรีเพลย์ที่พ่ายต่อเซาแทมป์ตัน ส่งผลให้แอตกินสันถูกปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1986 หลังจากคุมทีมมานานกว่า 5 ปี

อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของแอตกินสันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยดึงตัวมาจากแอเบอร์ดีน ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างมากใน 7 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ยูไนเต็ดทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างมากในลีกหลังการเข้ารับตำแหน่งของเฟอร์กูสัน จบอันดับที่ 11 สร้างผลงานที่น่าประทับใจรวมถึงการชนะทั้งสองนัดในลีกกับลิเวอร์พูล (ผลการแข่งขันช่วยให้เคนนี แดลกลีชเสียแชมป์ลีก) เอาชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ดในบ้าน 4–1 ในวันปีใหม่ปี 1987 เอาชนะอาร์เซนอล 2–0 ในบ้าน และเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 2–0 ในบ้านในดาร์บีแมนเชสเตอร์ ซึ่งช่วยผลักซิตีให้ตกชั้น ชัยชนะเหนือลิเวอร์พูล ยังทำให้พวกเขาเป็นทีมเดียวที่ชนะลิเวอร์พูลในลีกทั้งฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม แม้ฟอร์มการเล่นจะดีขึ้นแต่ยูไนเต็ดก็พลาดโอกาสจบฤดูกาลในลีกด้วยอันดับที่สูงกว่านั้น จากผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังบางนัดหลังอเล็กซ์ เฟอร์กูสันเข้ารับตำแหน่ง เช่นแพ้ 0–2 ในนัดแรกที่คุมทีมเยือนออกซฟอร์ดยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 1986 แพ้ทั้งสองนัดที่เจอกับวิมเบิลดันที่เพิ่งเลื่อนชั้น แพ้คาบ้านต่อนอริชซิตีหลังเทศกาลคริสต์มาส และแพ้ในเกมเยือนต่อทอตนัมฮอตสเปอร์ 0–4 ช่วงปลายฤดูกาล ในช่วงที่แข่งกับทอตนัม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ลีกหรือตกชั้นในทางทฤษฎี (เนื่องจากถูกแบนออกจากบอลยุโรปหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติเฮย์เซลเมื่อ 2 ปีก่อน) แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่สามารถคว้าชัยในเกมเยือนในลีกได้เลย ยกเว้นนัดที่บุกไปเยือนลิเวอร์พูลในช่วงวันเปิดกล่องของขวัญ

ยูไนเต็ดพัฒนาผลงานได้อย่างน่าทึ่งภายใต้การคุมทีมของเฟอร์กูสันในช่วงฤดูกาลนี้โดยไม่ต้องซื้อนักเตะใหม่ราคาแพง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะคาดการณ์กันว่าเฟอร์กูสันจะทุ่มเงินซื้อนักเตะใหม่จำนวนมากในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงปิดฤดูกาล 1987 เขาทุ่มเงินก้อนโต 850,000 ปอนด์ให้กับเซลติกเพื่อคว้าตัวกองหน้าจอมถล่มประตูอย่างไบรอัน แมคแคลร์ มาร่วมทีม เขายังเสริมทัพในแนวรับด้วยการคว้าตัววิฟ แอนเดอร์สัน ฟูลแบ็กประสบการณ์สูงจากอาร์เซนอลด้วยค่าตัว 250,000 ปอนด์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพยายามคว้าตัวผู้เล่นอีกหลายคน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แสดงความสนใจที่จะดึงตัวมาร์ค แฮตลีย์ กองหน้าจากเอซีมิลาน กลับมาเล่นในอังกฤษ แต่แฮตลีย์ตัดสินใจเลือกอยู่ต่อในต่างประเทศและเซ็นสัญญากับอาแอ็ส มอนาโก แทน เฟอร์กูสันยังพยายามดึงปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษกลับมาสู่สโมสร (เบียร์ดสลีย์เคยอยู่กับปีศาจแดงในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ) จากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด แต่สุดท้ายเบียร์ดสลีย์กลับเลือกย้ายไปลิเวอร์พูลแทนด้วยค่าตัวเป็นสถิติของเกาะอังกฤษ เฟอร์กูสันมีโอกาสเซ็นสัญญากับจอห์น บานส์ ปีกตัวเก่งของวอตฟอร์ด แต่ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาเนื่องจากเขามีความมั่นใจในตัวเยสเปอร์ โอลเซิน ปีกทีมชาติเดนมาร์กในตำแหน่งเดียวกัน

พรีซีซันและกระชับมิตร

เหตุการณ์ในฤดูกาล

ในช่วงปิดฤดูกาล มีข่าวลือว่ารอน แอตกินสันผู้จัดการทีมจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง และอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแอเบอร์ดีนจะเข้ามารับตำแหน่งแทน แอตกินสันพยายามต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้บรรดานักวิจารณ์เห็นว่าพวกเขาคิดผิด แอตกินสันพยายามที่จะเซ็นสัญญากับเทอร์รี่ บุทเชอร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษจากอิปสวิชทาวน์ แต่แพ้ให้กับเรนเจอส์ (ซึ่งคุมทีมโดยเกรอัม ซูนิสส์ อดีตกองกลางและกัปตันทีมลิเวอร์พูล)

การแข่งขันฟุตบอลดิวิชัน 1 ฤดูกาล 1986–87 เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 1986 โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแพ้ให้กับอาร์เซนอล 0–1 ในเกมเยือน เกมลีก 3 นัดแรกของยูไนเต็ดทั้งหมดจบลงด้วยการแพ้รวด ส่งผลให้พวกเขารั้งอันดับรองบ๊วยของดิวิชัน 1 เหนือเพียงแอสตันวิลลาเท่านั้นที่อันดับอยู่ต่ำกว่าพวกเขา

พวกเขาคว้าชัยชนะในลีกนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จในวันที่ 13 กันยายน ด้วยการถล่มเซาแทมป์ตัน 5–1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ส่งผลให้พวกเขาขยับมาอยู่ในอันดับที่ 19 จาก 22 ทีม ในลีกที่พวกเขาไม่เคยจบต่ำกว่าอันดับ 4 ใน 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแพ้เชลซี 0–1 อย่างน่าหงุดหงิด ในเกมลีกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อวันที่ 28 กันยายน ยูไนเต็ดพลาดโอกาสสำคัญที่จะคว้าคะแนนจากการยิงจุดโทษถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจากเยสเปอร์ โอลเซิน ครั้งที่ 2 จากกอร์ดอน สตรักคัน

ปลายเดือนตุลาคม จอห์น กิดแมน แบ็คขวามากประสบการณ์ ย้ายร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี คู่ปรับร่วมเมืองแบบไร้ค่าตัว นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าแกรี เบลีย์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมวัยเพียง 28 ปี อาจจะแขวนถุงมือในเร็ว ๆ นี้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่เข่าจนต้องพักยาวเกือบ 1 ปี

วันที่ 1 พฤศจิกายน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยืดสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 6 นัดติดต่อกัน (นัดล่าสุดที่แพ้คือแพ้เชลซีในบ้านเมื่อวันที่ 28 กันยายน) ด่วยการเสมอกับคอเวนทรีซิตี 1–1 แต่พวกเขายังคงอยู่อันดับที่ 4 จากท้ายตาราง และกระแสข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของแอตกินสันในตำแหน่งผู้จัดการทีมยังคงมีอยู่

แอตกินสันถูกปลดจากตำแหน่งในที่สุดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1 วันหลังจากที่ทีมของเขาแพ้ต่อเซาแทมป์ตัน 1–4 ในการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์ เป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของพวกเขาในเกมอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน และเป็นความพ่ายแพ้ที่หนักที่สุดของพวกเขาในเกมอย่างเป็นทางการในรอบ 18 เดือน ภายใน 24 ชั่วโมง อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็ตอบรับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 4 ปี นัดแรกในการคุมทีมของเฟอร์กูสันเกิดขึ้น 3 วันต่อมา เมื่อสถิติไร้พ่ายในลีก 6 นัดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อออกซฟอร์ดยูไนเต็ด 0–2 ชัยชนะนัดแรกของเขาเกิดขึ้นในลีกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เมื่อพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1–0 จากฟรีคิกของจอห์น ซิเวเบ็ก ในนาทีที่ 32 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 17

ผลงานที่ดีของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปในเดือนธันวาคม โดยคว้าชัยชนะในเกมเยือนในลีกนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูล 1–0 ในศึกแดงเดือดในวันบ็อกซิ่งเดย์ที่แอนฟีลด์ เป็นครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลแพ้ในเกมเหย้าในฤดูกาล 1986–87 นอร์มัน ไวต์ไซด์ยิงประตูชัยให้กับทีม ทำให้ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 21 สู่อันดับ 14 ในลีก นับตั้งแต่เฟอร์กูสันเข้ารับตำแหน่ง

ในเกมลีกนัดถัดมา ยูไนเต็ดเปิดบ้านแพ้นอริช 0–1 จากประตูชัยของเควิน ดริงเคลล์ในนาทีที่ 80 นอกจากนี้ ไบรอัน ร็อบสันกัปตันทีมยังได้รับบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย

การแข่งขันเอฟเอคัพของพวกเขาเริ่มขึ้นในรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในดาร์บีแมนเชสเตอร์ ซึ่งปีศาจแดงชนะ 1–0 จากประตูชัยของนอร์มัน ไวต์ไซด์ในนาทีที่ 66

4 วันหลังจากชนะศึกเอฟเอ คัพ ปีเตอร์ บานส์ผู้เล่นตำแหน่งปีกกลายเป็นผู้เล่นคนที่สองที่ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ต่อจากจอห์น กิดแมนด้วยค่าตัว 20,000 ปอนด์

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตกรอบเอฟเอคัพรอบที่ 4 ด้วยการเปิดบ้านแพ้คอเวนทรีซิตี 0–1 เมื่อวันที่ 31 มกราคม (ต่อมาคอเวนทรีเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและชนะทอตนัมฮอตสเปอร์ 3–2 คว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยแรกและสมัยเดียวของสโมสรจนถึงทุกวันนี้)

ดาร์บีแมนเชสเตอร์ครั้งที่ 110 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 2–0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของนิคกี รีดในนาทีที่ 62 และไบรอัน ร็อบสันในนาทีที่ 85 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ขยับลงไปอยู่ในอันดับที่ 19 (ตำแหน่งเพลย์ออฟตกชั้น)

ต่อมาในเดือนนั้น อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแสดงความสนใจที่จะนำมาร์ก ฮิวส์ อดีตดาวยิงของสโมสรกลับสู่โอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากที่เขามีฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังกับบาร์เซโลนา

มีการวางแผนขยายสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ให้เป็นสนามฟุตบอลสมัยใหม่ระดับโลกให้มีลักษณะคล้ายกับสนามกัมนอว์ ของบาร์เซโลนา

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะแบบไป–กลับในศึกแดงเดือดเมื่อวันที่ 20 เมษายน ด้วยการชนะ 1–0 เหนือลิเวอร์พูลที่โอลด์แทรฟฟอร์ด จากประตูชัยของปีเตอร์ ดาเวนพอร์ตในนาทีที่ 88

แกรี เบลีย์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ของสโมสร ประกาศแขวนถุงมือเมื่อวันที่ 23 เมษายน หลังจากที่ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่าได้เต็มที่ ซึ่งเขาได้รับเมื่อ 17 เดือนก่อนหน้านี้

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดปิดฉากฤดูกาลด้วยชัยชนะในบ้าน 3–1 เหนือแอสตันวิลลาที่ตกชั้น โดยได้ประตูจากเคลย์ตัน แบล็กมอร์ในนาทีที่ 55, ไมค์ ดักซ์บิวรี ในนาทีที่ 63 และไบรอัน ร็อบสันในนาทีที่ 65 ส่งผลให้พวกเขาจบอันดับที่ 11 – นับเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่พวกเขาตกชั้นจากดิวิชัน 1 เมื่อ 13 ปีที่แล้ว

คริส เทิร์นเนอร์ ผู้รักษาประตู และแกรม ฮ็อกก์ กองหลัง ถูกขึ้นบัญชีขายเมื่อจบฤดูกาล

ยูไนเต็ดยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวไบรอัน แมคแคลร์ กองหน้าเซลติกและทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 24 ปี เช่นเดียวกับมาร์ก เฮตลีย์ กองหน้าของเอซี มิลานและทีมชาติอังกฤษ วัย 26 ปี มีการยื่นข้อเสนอทำลายสถิติให้กับปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ กองหน้านิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเคยเล่นช่วงสั้น ๆ และไม่ประสบความสำเร็จที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อ 5 ปีก่อน

เฟอร์กูสัน คว้าตัววิฟ แอนเดอร์สัน กองหลังมากประสบการณ์ของอาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 250,000 ปอนด์ เป็นการเซ็นสัญญาผู้เล่นคนแรกในยุคของเฟอร์กูสัน แฟรงค์ สเตเปิลตัน กองหน้าตัวเก่ง ย้ายออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ดในช่วงซัมเมอร์นั้นไปยังอายักซ์ด้วยค่าตัว 100,000 ปอนด์

ในที่สุด ไบรอัน แมคแคลร์ก็ตกลงเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 850,000 ปอนด์ เป็นการเซ็นสัญญาผู้เล่นคนที่สองในยุคของเฟอร์กูสัน ในขณะที่เบียร์ดสลีย์ย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยค่าตัวเป็นสถิติระดับชาติในเวลานั้นด้วยค่าตัว 1.9 ล้านปอนด์ และเฮตลีย์ปฏิเสธและย้ายไปร่วมทีมอาแอ็ส มอนาโก

ยูไนเต็ดยังพยายามเซ็นสัญญากับเควิน ดริงค์เคลล์ กองหน้านอริช แต่เขาปฏิเสธเงื่อนไขของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และตัดสินใจอยู่ที่แคร์โรว์โรดต่อ

ทีม

สถิติเฉพาะในลีก
หมายเลขในวงเล็บคือในฐานะตัวสำรอง

ซื้อขายนักเตะ

ย้ายออก

อ้างอิง

Giuseppe Zanotti Luxury Sneakers

Text submitted to CC-BY-SA license. Source: สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาล 1986–87 by Wikipedia (Historical)