Aller au contenu principal

การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน


การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน


พายุหมุนเขตร้อนและพายุหมุนกึ่งเขตร้อนจะได้รับการตั้งชื่อโดยศูนย์เตือนภัยต่าง ๆ เพื่อความสะดวกระหว่างนักพยากรณ์อากาศกับประชาชนทั่วไปในการคาดการณ์, ผู้สังเกตการณ์, และการเตือนภัย เนื่องจากระบบของพายุนั้น สามารถมีอายุนานกว่าสัปดาห์หรือมากกว่านั้น และในเวลาเดียวกัน ก็อาจมีพายุเกิดขึ้นได้มากกว่าหนึ่งลูกภายในแอ่งเดียวกัน การตั้งชื่อพายุจึงเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการสับสนเกี่ยวกับพายุแต่ละลูก การใช้ชื่อที่ระบุเฉพาะตัวของพายุหมุนเขตร้อนแต่ละลูกต้องย้อนกลับไปหลายปี พร้อมกับระบบการตั้งชื่อตามชื่อสถานที่หรือสิ่งต่าง ๆ ก่อนจะมีการเริ่มต้นการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ โดยการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการมีใช้กับพายุที่ก่อตัวในแอ่งพายุหมุนเขตร้อนในแอตแลนติกเหนือ, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกตะวันออก, กลาง, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกตะวันตก, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกใต้ ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อพายุหมุนเขตร้อนในภูมิภาคออสเตรเลีย และพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดีย โดยชื่อต่าง ๆ จะได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยเมื่อมีพายุหมุนเขตร้อนมีความเร็วลมเฉลี่ยในหนึ่ง, สาม หรือ สิบนาที มากกว่า 65 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับแอ่งนั้น ๆ

ประวัติ

ก่อนการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการจะเริ่มต้นขึ้น พายุหมุนเขตร้อนมักถูกตั้งชื่อตามสถานที่ วัตถุ หรือวันฉลองนักบุญทางศาสนาในวันที่เกิดพายุ การใช้ชื่อบุคคลมาตั้งเป็นชื่อระบบลมฟ้าอากาศในระบบอุตุนิยมวิทยานั้นริเริ่มโดยเคลเมนต์ แร็กก์ นักอุตุนิยมวิทยาแห่งรัฐบาลควีนสแลนด์ ซึ่งได้ตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในระหว่างปี พ.ศ. 2430 ถึง 2450 ต่อมาระบบการตั้งชื่อลมฟ้าอากาศนั้นถูกเลิกใช้ไปหลังจากแร็กก์เกษียณอายุ จนกระทั่งถูกรื้อฟื้นอีกครั้งในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองสำหรับแอ่งมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ต่อมาจึงได้มีการนำรูปแบบการตั้งชื่อไปใช้กับแอ่งแอตแลนติกเหนือ แอ่งแปซิฟิกตะวันออก กลาง ตะวันตก และใต้ รวมถึงภูมิภาคออสเตรเลียและมหาสมุทรอินเดีย

ปัจจุบัน พายุหมุนเขตร้อนได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการศูนย์เตือนภัยหนึ่งจากสิบเอ็ดแห่ง และชื่อนั้นจะถูกคงไว้ไปตลอดช่วงชีวิตของตัวพายุหมุนเขตร้อน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้านการพยากรณ์อากาศ และการเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพต่อสาธารณชน ลักษณะนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อมีพายุหมุนเขตร้อนหลายลูกเกิดขึ้นพร้อมกันในแอ่งมหาสมุทรเดียวกัน โดยทั่วไป ชื่อจะถูกนำออกมาจากลำดับรายชื่อที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า เมื่อพายุดังกล่าวมีความเร็วลมต่อเนื่องในหนึ่ง สาม หรือสิบนาทีมากกว่า 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (40 ไมล์ต่อชั่วโมง) อย่างไรก็ตาม มาตรฐานนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละแอ่ง เช่น พายุหมุนเขตร้อนบางลูกในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกที่ก่อตัวเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนภายในหรือเข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบของฟิลิปปินส์ จะได้รับชื่อท้องถิ่นสำหรับใช้ในประเทศฟิลิปปินส์จากองค์การบรริการบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ หรือในซีกโลกใต้ พายุหมุนเขตร้อนจะต้องมีลักษณะเฉพาะ คือ มีแรงลมแรงมากอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นรอบศูนย์กลางเสียก่อนจึงจะได้รับชื่อ

สมาชิกใดก็ตามของคณะกรรมการพายุเฮอริเคน พายุไต้ฝุ่น และพายุหมุนเขตร้อนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก สามารถร้องขอให้มีการถอนชื่อหรือยกเลิกชื่อของพายุหมุนเขตร้อนออกจากชุดรายชื่อของพายุหมุนเขตร้อนได้ ชื่อนั้นจะถูกถอนหรือปลดไปหากได้รับฉันทามติจากเสียงข้างมากของสมาชิกว่าพายุหมุนเขตร้อนที่มีชื่อดังกล่าวนั้นมีชื่อทางด้านไม่ดี เช่น ก่อให้เกิดการเสียชีวิตของประชาชนเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความเสียหายผลกระทบเป็นจำนวนมาก หรือด้วยเหตุผลพิเศษอื่นใด จากนั้นจึงจะส่งชื่อทดแทนไปยังคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อลงคะแนนเสียง ทั้งนี้ชื่อเหล่านั้นสามารถถูกปฏิเสธและแทนที่ด้วยชื่ออื่นได้ด้วยเหตุหลายประการ เช่น เหตุผลด้านการสะกดและการออกเสียงของชื่อ ความคล้ายคลึงกับชื่อพายุหมุนเขตร้อนที่เพิ่งใช้มาไม่นาน หรือมีซ้ำอยู่ในชุดรายชื่ออื่น และความยาวของชื่อสำหรับช่องทางการสื่อสารในสมัยใหม่ เช่น สื่อสังคม

มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก (180° ถึง 100° ตะวันออก)

พายุหมุนเชตร้อนที่เกิดขึ้นภายในซีกโลกเหนือ ระหว่างเส้นเมริเดียนที่ 180 องศา ถึง 100 องศาตะวันออก จะได้รับชื่ออย่างเป็นทางการจากกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น หากพายุหมุนเขตร้อนนั้นมีความรุนแรงขั้นต่ำเป็นพายุโซนร้อน อย่างไรก็ตาม PAGASA จะกำหนดชื่อพายุหมุนเขตร้อนของต้นเองหากมีพายุดีเปรสชันเขตร้อน ก่อตัวหรือเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณที่เรียกว่า พื้นที่รับผิดชอบของฟิลิปปินส์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเส้นขนานที่ 5 องศาเหนือ ถึง 25 องศาเหนือ และระหว่างเส้นเมริเดียนที่ 115 องศาตะวันออก ถึง 135 องศาตะวันออก ครอบคลุมประเทศฟิลิปปินส์ เป็นผลให้พายุหมุนเขตร้อนในภูมิภาคนี้มีชื่อจำนวนสองชื่อ อย่างไรก็ตาม ชื่อสากลเป็นชื่อที่ใช้กันทั่วไปในระดับภูมิภาค ส่วนชื่อของฟิลิปปินส์เป็นชื่อที่ใช้กันเป็นการภายในของประเทศฟิลิปปินส์เอง

ชื่อสากล

พายุหมุนเขตร้อนภายในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกจะได้รับชื่อสากล โดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เมื่อมีความรุนแรงขั้นต่ำเป็นพายุโซนร้อนโดยมีความเร็วลมต่อเนื่องเฉลี่ยใน 10 นาทีอย่างน้อย 34 kn (39 mph; 63 km/h) ชื่อจะถูกใช้ตามลำดับต่อเนื่องกันไปในแต่ละปี ซึ่งชื่อเหล่านี้จะถูกเตรียมไว้อยู่ภายในชุดรายชื่อจำนวนห้าชุด โดยคณะกรรมการไต้ฝุ่นของ ESCAP/WMO ซึ่งชื่อเหล่านี้ถูกส่งมาโดยประเทศและดินแดนสมาชิกจำนวน 14 ประเทศและดินแดน โดยประเทศหรือดินแดนละ 10 ชื่อในปี พ.ศ. 2543 และมีการจัดเรียงชื่อตามลำดับตัวอักษรโรมันของชื่อประเทศที่ส่งเองตามลำดับ ทั้งนี้ ประเทศหรือดินแดนสมาชิกคณะกรรมการไต้ฝุ่น สามารถยื่นขอถอนชื่อพายุในชุดรายชื่อได้ หากชื่อเหล่านั้นส่งผลกระทบอย่างมหาศาล หรืออาจด้วยเหตุผลอื่น เช่น จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิต เป็นต้น

เชิงอรรถ

ฟิลิปปินส์

นับแต่ปี พ.ศ. 2506 สำนักงานบริหารบริการบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ฟิลิปปินส์ (PAGASA) ได้กำหนดชื่อพายุหมุนเขตร้อนที่เข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานเป็นชื่อของตัวเองอย่างอิสระ โดยชุดรายชื่อมีลักษณะเป็นชุดรายชื่อที่แตกต่างกันสี่ชุด ชุดละ 25 ชื่อ โดยจะนำมากำหนดให้กับพายุหมุนเขตร้อนที่มีความรุนแรงตั้งแต่พายุดีเปรสเขตร้อนขึ้นไป ที่ก่อตัวหรือเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตฟิลิปปินส์ ชุดรายชื่อทั้งสี่จะถูกนำมาใช้หมุนเวียนต่อเนื่องกันปีละหนึ่งชุด และหากชื่อพายุหมุนเขตร้อนใดที่สร้างความเสียหายขั้นต่ำ 1 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ หรือทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 300 คนในประเทศฟิลิปปินส์ ชื่อนั้นจะถูกถอนออก หากมีพายุหมุนเขตร้อนมากเสียจนชื่อในรายการหมดลง จะมีการนำชื่อในรายการเพิ่มเติมมาใช้ต่อ

มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ

ภายในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ พายุที่มีความรุนแรงถึงระดับพายุโซนร้อนหรือพายุกึ่งโซนร้อน จะได้รับชื่อโดยศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ (NHC/RSMC ไมอามี) โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นผู้ตัดสิน เมื่อพายุทวีกำลังทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ด้วยความเร็วลมอย่างน้อย 34 นอต (63 กม./ชม. หรือ 39 ไมล์/ชม.) ชื่อที่ถูกเลือกจะมาจากหนึ่งในหกรายการตามลำดับตัวอักษรที่หมุนเวียนจากรายชื่อทั้งยี่สิบเอ็ด ซึ่งมีคณะกรรมการพายุเฮอริเคน RA IV ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเป็นผู้ดูแล ชื่อในชุดรายชื่อดังกล่าวนี้เว้นการใช้ตัวอักษร Q, U, X, Y และ Z และมีการใช้แบบหมุนเวียนสลับกันไประหว่างชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิง ชื่อของพายุซึ่งมีนัยสำคัญจะถูกถอนออกจากชุดรายชื่อ และจะมีการตั้งชื่อขึ้นใหม่มาทดแทนในวาระการประชุมรอบถัดไปของคณะกรรมการพายุเฮอริเคน

จนถึงปี 2564 หากชื่อพายุในชุดรายชื่อของปีนั้นถูกใช้ไปจนหมด พายุโซนร้อนและพายุกึ่งโซนร้อนที่เกิดขึ้นใหม่จะถูกกำหนดชื่อเป็นชื่อของอักษรกรีกตามลำดับ กระทั่งในเดือนมีนาคม 2564 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกได้ประกาศว่า พายุลูกใดก็ตามที่เกิดขึ้นใหม่นั้น ให้ใช้ชื่อจากรายการรายชื่อเพิ่มเติมแทน ทั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากชื่อของอักษรกรีก

มหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออก

ภายในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก มีสองหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประกาศใช้ชื่อกับพายุในนามขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เมื่อหน่วยงานดังกล่าวพบว่ามีพายุหมุนเขตร้อนใดที่ทวีกำลังแรงเป็นระดับพายุโซนร้อน ด้วยความเร็วมลมอย่างน้อย 34 นอต (63 กม./ชม. หรือ 39 ไมล์/ชม.) โดยพายุหมุนเขตร้อนใดที่ทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน อยู่ระหว่างชายฝั่งทวีปอเมริกา ถึง 140°ต.ต. จะได้รับชื่อโดยศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ (NHC/RSMC ไมอามี) ขณะที่พายุหมุนเขตร้อนใดที่ทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน อยู่ระหว่าง 140°ต.ต. ถึง 180° จะได้รับชื่อโดยศูนย์เฮอร์ริเคนแปซิฟิกกลาง (CPHC/RSMC โฮโนลูลู) ส่วนชื่อของพายุหมุนเขตร้อนที่มีนัยสำคัญ จะถูกปลดจากรายการ และจะมีการคัดเลือกชื่อใหม่ขึ้นมาแทนในการประชุมคณะกรรมการเฮอร์ริเคนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกครั้งต่อไป

มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือทางทิศตะวันออกของละติจูด 140° ตะวันตก

เมื่อพายุดีเปรสชันเขตร้อนทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในบริเวณตอนเหนือของเส้นศูนย์สูตร ระหว่างชายฝั่งทวีปอเมริกา ถึง 140°ต.ต. จะได้รับชื่อโดยศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ โดยมีรายการชื่อทั้งหมดหกชุด หมุนเวียนกันในทุก ๆ หกปี โดยในแต่ละชุดเริ่มต้นที่ตัวอักษรเอ (A) และสิ้นสุดด้วยตัวอักษรซี (Z) โดยชื่อที่ใช้มีทั้งชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิง ส่วนชื่อของพายุหมุนเขตร้อนที่มีนัยสำคัญ จะถูกถอนออกจากรายการ และจะมีการคัดเลือกชื่อใหม่ขึ้นมาแทนในการประชุมคณะกรรมการเฮอร์ริเคนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกครั้งต่อไป หากทุกชื่อในชุดถูกใช้ไปจนหมด พายุที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจะใช้ชื่อในชุดรายชื่อเพิ่มเติมแทน

มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือตอนกลาง (ละติจูด 140° ตะวันตก ถึง 180°)

เมื่อพายุดีเปรสชันเขตร้อนทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในบริเวณตอนเหนือของเส้นศูนย์สูตร ระหว่าง 140°ต.ต. ถึง 180° จะได้รับชื่อโดยศูนย์เฮอร์ริเคนแปซิฟิกกลาง โดยมีรายการชื่อสี่ชุดเป็นชื่อภาษาฮาวาย โดยได้รับการปรับปรุงโดยคณะกรรมการเฮอร์ริเคนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก โดยการใช้แบบหมุนเวียนโดยไม่คำนึงถึงปี คือ ชื่อแรกของปีถัดไปจะเป็นต่อจากชื่อสุดท้ายของปีก่อน ซึ่งยังไม่ได้ถูกใช้ ส่วนชื่อของพายุหมุนเขตร้อนที่มีนัยสำคัญ จะถูกปลดจากรายการ และจะมีการคัดเลือกชื่อใหม่ขึ้นมาแทนในการประชุมคณะกรรมการเฮอร์ริเคนครั้งต่อไป

มหาสมุทรอินเดียเหนือ (ละติจูด 45° ตะวันออก ถึง 100° ตะวันออก)

ภายในมหาสมุทรอินเดียเหนือ ระหว่าง 45°ต.อ. ถึง 100°ต.อ. พายุไซโคลนจะได้รับชื่อจากกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD/RSMC นิวเดลี) โดยกรมดังกล่าวจะเป็นผู้ตัดสิน เมื่อพายุไซโคลนมีความเร็วลมสูงสุด เฉลี่ยใน 3 นาที อย่างน้อย 34 นอต (63 กม./ชม. หรือ 39 ไมล์/ชม.) โดยมีรายการชื่อแปดชุด และได้รับการใช้หมุนเวียนน้อยมากในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม ชื่อพายุหมุนเขตร้อนที่มีนัยสำคัญก็จะถูกปลดออกจากรายการ ทั้งนี้เมื่อถึงคราวชื่อชุดแรกใกล้หมดลงแล้ว ได้มีการประกาศรายชื่อชุดใหม่ขึ้น โดยเพิ่มจากเดิมที่ 64 ชื่อ เป็น 169 ชื่อ จากทั้งหมด 13 ประเทศ

มหาสมุทรอินเดียใต้ด้านตะวันตก (แอฟริกา ถึง 90° ตะวันออก)

ในแอ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย พายุดีเปรสชันเขตร้อนและดีเปรสชันกึ่งเขตร้อนจะได้รับการตั้งชื่อเมื่อศูนย์อุตุนิยมวิทยาประจำภูมิภาคที่เกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศสตรวจพบว่ามีความเร็วลมคงที่สูงสุด 10 นาทีอยู่ที่ 65 กม./ชม. (40 ไมล์) หรือมากกว่านั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ตั้งชื่อพายุได้แก่ ศูนย์แจ้งเตือนพายุหมุนเขตร้อนระดับอนุภูมิภาคในมอริเชียสและมาดากัสการ์

ศูนย์แจ้งเตือนพายุหมุนเขตร้อนระดับอนุภูมิภาคในมอริเชียสจะตั้งชื่อพายุลูกหนึ่ง ๆ เมื่อมันมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังปานกลางระหว่างละติจูด 55° ตะวันออกกับละติจูด 90° ตะวันออก แต่ถ้าพายุลูกใดมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังปานกลางระหว่างละติจูด 30° ตะวันออกกับละติจูด 55° ตะวันออก ศูนย์แจ้งเตือนพายุหมุนเขตร้อนระดับอนุภูมิภาคในมาดากัสการ์จะเป็นผู้กำหนดชื่อที่เหมาะสมของพายุลูกนั้น

รายชื่อใหม่จะใช้เป็นประจำทุกปี ในขณะที่ชื่อปกติจะใช้เพียงครั้งเดียวจึงไม่มีการปลดชื่อออก

ภูมิภาคออสเตรเลีย (90° ตะวันออก ถึง 160° ตะวันออก)

ในภูมิภาคออสเตรเลียในซีกโลกใต้ อยู่ระหว่าง 90° ตะวันออก ถึง 160° ตะวันออก พายุหมุนเขตร้อนจะได้รับการใช้ชื่อเมื่อได้รับการสังเกตการณ์ และ/หรือ วิเคราะห์ความรุนแรง ว่าพายุมีลมแรงใกล้ศูนย์กลาง ซึ่งจะได้รับการคาดการณ์ต่อไป สำหรับอินโดนีเซียโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศ และธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย จะตั้งชื่อพายุที่ก่อตัวระหว่างเส้นศูนย์สูตรถึง 10° ใต้ และระหว่าง 90° ตะวันออก ถึง 141° ตะวันออก ในขณะที่สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติปาปัวนิวกีนี จะตั้งชื่อพายุที่พัฒนาระหว่างเส้นศูนย์สูตรถึง 10° ใต้ และระหว่าง 141° ตะวันออก ถึง 160° ตะวันออก นอกเหนือจากพื้นที่เหล่านี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย จะเป็นผู้ตั้งชื่อหากมีพายุไซโคลนเกิดขึ้น ซึ่งพายุที่ได้รับดารตั้งชือและเป็นพายุที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และ/หรือ ความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญและการหยุดชะงักลงของวิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การปลดของชื่อพายุนั้น ๆ และจะมีการส่งชื่อใหม่ไปให้องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพายุหมุนเขตร้อน

อินโดนีเซีย

ถ้าพายุก่อตัวระหว่างเส้นศูนย์สูตรถึง 10° ใต้ และระหว่าง 90° ตะวันออก ถึง 141° ตะวันออก จะได้รับการตั้งชื่อโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศ และธรณีฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย (BMKG/TCWC จาการ์ตา) โดยจะใช้ตามลำดับจากชุดเอ ในขณะที่ชุดบี จะมีการทำไปแทนรายชื่อในรายการชุดเอ ซึ่งอาจจะมีการปลด ลบออก หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม

ปาปัวนิวกินี

ถ้าพายุก่อตัวระหว่างศูนย์สูตรถึง 10° ใต้ และระหว่าง 141° ตะวันออก ถึง 160° ตะวันออก จะได้รับการตั้งชื่อโดยสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติปาปัวนิวกีนี (NWS, TCWC พอร์ตมอร์สบี) รายชื่อที่ได้ใช้ในรายชื่อเอและจะได้รับการปลดโดยอัตโนมัติหลังจากใช้งาน โดยไม่มีการคำนึงถึงความเสียหายหรือผลที่เกิดจากพายุ รายชื่อบี จะมีการทำไปแทนรายชื่อในรายการรายชื่อเอ ซึ่งอาจจะมีการปลด ลบออก หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม

ออสเตรเลีย

เมื่อมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขี้นที่ต่ำกว่า 10° ใต้ และระหว่าง 90° ตะวันออก ถึง 160° ตะวันออก จะได้รับการตั้งชื่อโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย (BoM) ซึ่งดำเนินการโดยสามศูนย์เตือนภัยพายุไซโคลนเขตร้อนใน เพิร์ท, ดาร์วิน หรือบริสเบน ชื่อที่ใช้ได้รับมอบหมายตามลำดับตัวอักษร และใช้หมุนเวียนโดยไม่คำนึงถึงปี

มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ (160° ตะวันออก ถึง 120° ตะวันตก)

ภายในแอ่งมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในซีกโลกใต้ระหว่าง 160° ตะวันออก ถึง 120° ตะวันตก พายุหมุนเขตร้อนจะได้รับการใช้ชื่อเมื่อได้รับการสังเกตการณ์ และ/หรือ วิเคราะห์ความรุนแรง ว่าพายุมีลมแรงใกล้ศูนย์กลาง ซึ่งจะได้รับการคาดการณ์ต่อไป กรมอุตุนิยมวิทยาฟีจี (FMS/RSMC นันจี) จะตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนระหว่างเส้นศูนย์สูตรถึง 25° ใต้ ในขณะที่สำนักงานบริการอุตุนิยมวิทยานิวซีแลนด์ (MetService, TCWC เวลลิงตัน) จะเป็นผู้ตั้งชื่อ ซึ่งเป็นรายชื่อที่ใช้ร่วมกับ RSMC นันจี ซึ่งพายุที่ได้รับดารตั้งชือและเป็นพายุที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และ/หรือ ความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญและการหยุดชะงักลงของวิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การปลดของชื่อพายุนั้น ๆ และจะมีการส่งชื่อใหม่ไปให้องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพายุหมุนเขตร้อน ชื่อของพายุหมุนเขตร้อนจะถูกใช้ตั้งแตารายการเอ ถึง ดี ตามลำดับ โดยไม่ต้องย้อนกลับเริ่มต้นใช้รายชื่อเอใหม่ เมื่อเริ่มปีต่อไป ชื่อพายุต่อไปคือทูนี

รายชื่อพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้

เมื่อมีพายุหมุนเกิดขึ้นในเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อนในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ศูนย์บริการอุตุนิยมวิทยาทางทะเลของศูนย์อุทกศาสตร์ กองทัพเรือบราซิล จะเป็นผู้ใช้ชื่อโดยใช้รายชื่อที่กำหนดไว้

หมายเหตุ

อ้างอิง


Text submitted to CC-BY-SA license. Source: การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน by Wikipedia (Historical)


INVESTIGATION